Pages

Tuesday, October 16, 2012

Comfort Food - Homemade Veggie Pot Pie


For me, pot pies mysteriously have the word "comfort" written all over them. Oddly they also seem hard to make and I have been intimidated about making them for the longest time. Yet, at this time of year, cravings for comfort food gives me a renewed motivation. I also managed to tackle making flaky pie crust and rolling out my dough for the first time ever !!! Yippy... Happy to report that it went unbelievably well -- thanks to my beloved "The Joy of Cooking" cook book. I sat down to dinner with a great sense of triumph :).  
I have to confess, if Thai cook books are half as well written as this book, I would have graduated the Thai Cordon Bleu by now :P -- Most of the time, I got confused and frustrated and give up all together given my track records -- ha ha. Anyway, the history of "pies" is quite long and interesting. Check out this link if you are interested: The History of Pie by Slice of Life Sunday .

เคยทานเชพเพิร์ดพายครั้งแรกที่โคเว้นท์ การ์เด้น ในลอนดอน และทำให้เปลี่ยนใจจากสิ่งที่คนชอบล้ออาหารอังกฤษว่าแสนจะน่าเบื่อที่สุดในโลก -- สำหรับคนที่ชอบทานเผ็ดอาจไม่ชอบเลย แต่ในอากาศหนาวๆ แล้วล่ะก็ มันเป็นอาหารที่ทานแล้วมีความสุขเอามากๆ เลย รวมแล้วๆ มันเหมือนกะหรี่พั้ฟ ที่ไม่ใส่ผงกะหรี่น่ะ หลังจากประสบการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่ได้ทานพวกเซเวอรี่พาย (savoury pies- คือพวกพายที่ไม่ใช่ของหวาน ข้างในเป็นเนื้อสัตว์ -- คนอังกฤษ เอาไว้ล้างปากก่อนของหวาน -- ฟังดูแปลกๆ เนอะ เอาของคาวล้างปากน่ะ) ที่อร่อยๆ อีกบ่อยนัก --มันเหมือนกับว่าเป็นอาหารโบราณ พื้นบ้าน แล้วคนไม่ค่อยทำกันรึไงเีนี่ยะล่ะ ว่ากันว่าพายนี่เริ่มทานกันตั้งแต่ยุคโรมัน ราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 5-6 โน่นแน่ะ แต่ แป้งพายสมัยก่อนไม่อร่อย ทำจากน้ำมันมะกอก แล้วบางทีก็มีสัตว์เป็นๆ อยู่ข้างในพาย แบบว่าพอตัดพาย นกบินออกมาเงี้ยะ (ทำให้นึกถึงคนจีนที่กินสมองลิงที่ดิ้นๆ อยู่ใต้โต๊ะอ่ะ อึ๋ยยยย) ภายหลังพัฒนากันมาจนเป็นพายที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน 

เริ่มแรกพายเป็นอาหารคาวก่อน แล้วค่อยๆ แพร่ขยายวงกว้างไปสู่ของหวานจนมีตำหรับมากมายนับไม่ถ้วนในปัจจุบัน ส่วนในอเมริกา คนยุโรปที่มาตั้งรกรากก็นำเอาสูตรมาด้วย น่าสนใจที่แต่ละภาคในอเมริกาก็จะมีพายเด่นๆ ต่างๆ กันไป อย่างทางมิดเวสท์ก็จะเป็นพายผลไม้ อย่าง Rhubarb pie, ที่ฟลอริด้า ก็มี Key Lime Pie เป็นต้น อากาศที่นี่ช่วงนี้ถึงจะไม่หนาวมากนัก แต่ก็ชวนให้ทานอาหารที่ทำให้สุขใจเป็นอย่างยิ่ง ก็เลยลุกขึ้นกัดฟันลองทำดู ส่วนที่ยากคงจะเป็นแป้งพาย -- ที่มีหลากหลายวิธีตั้งแต่ง่ายจนถึงยากที่สุดสำหรับฉัน อย่าง พัฟเพสตรี้ (puff pastry) ที่ซักวันคงจะพยายามบ้าง แต่วันนี้ลองใช้สูตรต้นตำหรับที่ต้องโรลด้วย อิอิ อยากใช้โรลลิ่งพินที่ซื้อมาตั้งนานแล้วอ่ะ 

ปกติเค้าจะทำพ้อตพายไก่ แต่หมู่นี้ขี้เกียจทานเนื้อสัตว์ ก็เลยลองทำเป็นพ้อตพายผัก (เข้าใจว่า pot pie ของอเมริกันส่วนมากมีแป้งเฉพาะข้างบน ไม่เหมือนยุโรป) อืมมม อร่อยเกินขาด ต้องขอขอบคุณตำราอาหารคู่ใจ เดอะจอยออฟคุ้กกิ้ง ที่เขียนดีที่สุดเลย ละเอียดทำตามง่าย ไม่เหมือนตำราอาหารไทยที่เขียนเอาพอสังเขป (แม้ว่าไม่ได้ตั้งใจอย่างงั้น มั้ง) แบบว่าส่วนมาก คนทำอาหารใช้สามัญสำนึกเอง ที่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีสามัญสำนึกในการครัวเป็นอย่างยิ่ง -- สังเกตได้ว่า แม่ครัวไทยเก่งที่สุดในโลก ไม่เคยเห็นคนไหนอ่านตำราเลยซักคน 555 อ้าว นี่ว่าจะเขียนนิดเดียว เพ้อเจ้อไปเรื่อยๆ อีกแล้ว อิอิ -- ทั้งนี้ทั้งนั้น พออ่านเรื่องเกี่ยวกับพายไป ก็พาลให้ไปนึกถึงอาหารจานโปรดที่แม่ทำให้ทานในโอกาสพิเศษเสมอตอนเด็กๆ คือ สตูลิ้นวัว พอโตขึ้นหาทานไม่ค่อยได้แล้ว คงเพราะโรคภัยของวัวมากเหลือเกิน แล้วคนก็เลิกทานเนื้อกันเยอะเนอะ

0 comments:

Post a Comment